กว่าจะรวยได้ก็ต้องยากลำบากมาก่อนเสมอ แต่คนรวยส่วนใหญ่ก็มีแนวทาง หรือความคิดคล้ายๆกัน เราขอเสนอแนวคิดของคนรวย เพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตในหารทำงาน
สร้างความมั่งคัง มากกว่าความมั่งมี
พวกเขามักจะนำเงินไปลงทุน เพื่อเก็บกินดอกเบี้ย หรือผลกำไร มากกว่าที่จะทำเงินมาซื้อของเพื่ออวดรวย
ไม่คิดลบ ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ
ไม่เคยคิดถึง ความเป็นไปไม่ได้ หรือ ทำไม่ได้ ทุกอย่างเป็นบวก มีโอกาสที่จะสำเร็จมีช่องทางให้มันเป็นไปได้ แม้สิ่งนั้นจะยังไม่มีใครทำก็ตาม
ชะตาชีวิตต้องเลือกเอง ไม่ได้มาจากโชคชะตา
อย่าโทษโชคชะตา แม้จะเกิดมายากจน แต่ถ้าลงมือทำ คุณจะสามารถเปลี่ยนโชคชะตาตัวเองได้จากการกระทำ ขยันและอดทน เพื่อที่จะสร้างฐานะ ความเป็นอยู่ของตัวเองให้ดีขึ้น
มีหัวค้าขาย ทำธุรกิจตั้งแต่เล็ก
ชอบค้าขาย คิดโน่น ทำนี่ ที่เป็นธุรกิจ มันจะเป็นความชอบ และแนวคิดของคนรวย แม้เพียงบาท สองบาท ก็ต้องมองเป็นโอกาส และรู้วิธีการในการที่จะแปลงสิ่งของ ที่เขามีให้มีมูลค่า นำมาค้าขายเป็นเงินได้อย่างไร รู้จักที่จะต่อรอง เพื่อให้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ไม่คิดเล็กคิดน้อย
ไหน ๆ จะคิดแล้วก็คิดให้มันใหญ่ ทำแล้วก็ให้มันใหญ่ไปเลย คนรวยจึงไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อย และคิดแต่การณ์ใหญ่
ไม่สนใจอุปสรรค สนใจแต่เป้าหมาย
ไม่ว่าใคร ทำอะไร ทุกคนล้วนแต่เจออุปสรรคด้วยกันทั้งนั้น ทำอะไรไม่มีอุปสรรค นั้นไม่มี ทุกสิ่งอย่างมีปัญหารออยู่ตรงหน้า รอให้เราก้าวข้ามมันไป
คิดถึงทางออกเสมอ
ก่อนจะลงมือทำพวกเขาจะวางแผน คิดถึงทางออก วิธีการในการที่จะสร้างความสำเร็จ มันทำให้ยากที่พวกเค้าจะล้มเหลว เหลือแต่ความสำเร็จเท่านั้น จากนั้นก็ลงมือทำ ก็มันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม
ไม่อิจฉากับความสำเร็จของคนอื่น ชื่นชมและมองเป็นแบบอย่าง
ไม่นินทาว่าร้ายคนอื่น ไม่อิจฉาหารใครทำได้ดีกว่า แต่พวกเขาจะชื่นชม และนำมาเป็นแบบอย่าง
ไม่รอความเพรียบพร้อม
พวกเค้าพร้อมที่จะลุยกับงานที่เค้าคิดมาว่าดี และคุ่มที่จะลอง เขาไม่รอให้ทุกอย่างพร้อมเขาจะสร้างความพร้อมไปด้วยกันขณะที่ลงมือทำ
มีแผนการ แผนสำรอง ในการทำธุรกิจ
รูปแบบการทำธุรกิจเขาออกแบบ ให้มีแผนการ เป็นขั้นเป็นตอน และมีแผนสำรองใว้เสมอ เพื่อลดโอกาศที่จะพลาดและล้มเหลว
แลกเปลี่ยนความคิด กับเพื่อนฝูง
พวกเขาไม่ได้คิด เป็นคู่แข่งคู่แค้น แต่เขามองหาคู่ค้า พันธมิตร เพราะฉนั้นพวกเขามักจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
รู้จักคุณค่าของเงิน ใช้เงินเป็น และหาเงินเก่ง
ไม่ใช้จ่ายเงินโดย ไม่เห็นคุณค่า เพราะเขาเข้าใจว่าเงินไม่ได้หามาอย่างง่ายดาย เขาจึงใช้จ่าย อย่างรอบคอบ บริหารเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาอย่างรู้คุณค่ามากที่สุด
นำเงินไปลงทุนต่อเงิน
คนรวยนำเงินไปลงทุน แต่คนจนมักนำเงินไปซื้อความฟุ่มเฟือยก่อน ยอมกัดก้อนเกลือในวันนี้ เพราะได้มีโอกาสกินดีในวันหน้า
ใช้ชีวิตเรียบง่าย พอเพียง
ไม่อวดรวย โชว์ความมั่งมี แต่เขากลับใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่ง่าย กินง่าย สบายๆ ทุกอย่างอยู่บนความพอเพียง ไม่เอาความโลภมานำมาชีวิต แต่เขาเอาความพอดี เอาชนะความโก้หรู เขาเชื่อว่าท้ายสุดของความร่ำรวย หาใช่ เงินทองเพียงอย่างเดียว แต่ชีวิตที่เป็นชีวิตที่เลือกได้ ต่างหากทั้ง สุขภาพ ครอบครัว และสังคม นี่ต่างหากที่จะสร้างความยั่งยืน ให้กับตัวเขาเอง
ศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา
ยิ่งรวยยิ่งถ่อมตน ในความรู้ แต่ยิ่งจนยิ่งอวดฉลาดในความไม่รู้ คนรวยศึกษา หาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจากการอ่าน การแลกเปลี่ยนความคิด ยิ่งมีความรู้มากเท่าไหร่ ความ เสี่ยงก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น การลงทุนในความรู้นั้น ใช้เงินทุนต่ำกว่า การล้มเหลวในการลงทุนเพราะความไม่รู้ กลายเป็นบทเรียนราคาแพง
