27 เมษายน 2024
จิต ความสำเร็จ

จิต ต้นตอของความสำเร็จ

ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสิ่ง ๆ เดียวคือ จิต นี่มันเป็นต้นตอของความสำเร็จหรือความล้มละลาย

โอวาทลาสิกขาบท แก่พระนวกะวัดชลประทาน ปี 2513 โดยท่าน พุทธทาสภิกขุ

ผมคิดว่าที่แล้วมาพวกคุณไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เรียกว่าจิต โดยตรงหรืออย่างถูกต้องหรืออาจจะไม่ได้สนใจว่า มีสิ่งที่เรียกว่าจิตอยู่เป็นพิเศษหรือสำคัญอีกด้วย โดยถือเสียว่าเอาตามอารมณ์ ทำอะไรไปตามอารมณ์ จิตจะอยู่ ที่ไหนก็ไม่รู้ ฉันเอาแต่ตามอารมณ์ที่ต้องการอย่างนี้มันเป็นความเขลา

เพราะว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับจิต

มันออกมาจากจิต แต่ทีนี้เรามาเอาปลายเหตุของมัน ไอ้ที่เรียกว่าอารมณ์ๆ นี้มันเป็นปลายเหตุ หรือผลของจิตหลังจากที่คิดนึกอะไรไปตามสิ่งที่มากระทบ ตรงนี้ให้ระวังให้ดี ภาษาไทยดิ้นได้กำกวมปนเปกันยุ่งไปหมด

ภาษาธรรมะ อารมณ์นั้นก็หมายถึง สิ่งที่จะมากระทบจิต ภาษาที่พวกคุณพูดกันตามสมัยใหม่นี้ อารมณ์หมายถึงพื้นเพของจิต หลังจากที่ มันมีอารมณ์มากระทบแล้ว

ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสิ่งๆ เดียวคือ จิต ในส่วนที่จะเป็นต้นเหตุ คือความคิดนึกที่จะกระทำ มันก็อยู่กับจิต

การกระทำมันก็ขึ้นอยู่กับจิต

ผลของการกระทำมันก็อยู่กับจิต ฉะนั้นไม่มีอะไรที่ไม่ใช่หน้าที่การงานของจิต

ดังนั้น เราจะต้องรู้จักสิ่งนี้ ซึ่งรวมความว่าเราจะต้องมี #จิตที่เหมาะสม ….ที่แล้วมาคุณมีจิตที่ไม่เหมาะสม ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรนักเรื่องเกี่ยวกับจิต มันก็ตกไปฝ่ายวัตถุ คือไปบูชาวัตถุ รู้จักแต่วัตถุ เกี่ยวข้องอยู่แต่กับวัตถุ จัดการอยู่แต่กับวัตถุ มันก็เกิดเป็นไอ้วัตถุนิยม MATERIALISM ขึ้นมาโดยไม่ทันรู้ตัว เกิดลัทธิวัตถุนิยมขึ้นมาหนาแน่นในโลก เต็มไปทั้งโลก

กระทั่งที่รุนแรงก็เป็น DIALECTIC MATERIALISM เพราะอะไร ๆ ขึ้นอยู่กับวัตถุ (ที่เชื่อว่า) ถ้าทำวัตถุให้ดีแล้วอะไรก็ดีหมด กระทั่งจิตนี้เป็นเพียงผลพลอยได้จากวัตถุ เป็นเพียงปฏิกิริยาของวัตถุ ไม่ต้องนึกถึงสิ่งที่เรียกว่าจิต คือจัดเรื่องวัตถุให้ดีแล้วจิตมันก็ดีเอง ปัญหามันก็หมดไป เขาคิดกันอย่างนั้น จึงระดมกันแต่เรื่องวัตถุ ให้จิตนี้เป็นเพียงปฏิกิริยาของวัตถุ หรือของการจัดการทำทางวัตถุ

ไม่มีศัตรูใดๆที่จะร้ายยิ่งไปกว่าจิตที่ตั้งไว้ผิด

จิตที่ตั้งไว้ผิดนั้นเป็นศัตรูและเป็นศัตรูที่ร้ายที่สุดกว่าศัตรูใด ๆ อย่าไปคิดว่าศัตรูข้างบ้านหรือว่าศัตรูข้างประเทศเรา หรืออะไรทำนองนี้มันเป็นศัตรูหรือศัตรูที่ร้ายที่สุดนั้นออกจะโง่มากไปหน่อย ศัตรูที่ร้ายที่สุดอยู่ข้างใน คือ จิตที่ตั้งไว้ผิด พอตั้งจิตไว้ผิดเท่านั้นทุกอย่างจะกลายเป็นศัตรูไปหมด

เพราะว่าตัวจิตเองมันกลายเป็นศัตรูไปเสียแล้ว จึงไม่สามารถจะปราบศัตรูใด ๆ หรือเอาชนะบุคคลใดได้เลย แม้แต่สุนัขหรือแมวสักตัวหนึ่งที่เลี้ยงไว้เองนี้ก็เอาชนะมันไม่ได้ คือทำให้มันเป็นไปตามความประสงค์ของเราไม่ได้ เพราะเราตั้งจิตไว้ผิด ไม่ชนะแก่กิเลส ไม่ชนะแก่ตัวเองเสียก่อน

ถ้าเราตั้งจิตไว้ถูกก็หมายความว่า มีความรู้ความเข้าใจ สติปัญญา สามารถ อำนาจ กำลัง ที่จะจัดการกับสิ่งทั้งปวงให้ราบเรียบ ให้เรียบร้อยไปได้ มันเป็นอันว่าเราจะต้องรู้จักจิตที่ตั้งไว้ผิดนี่กันก่อนเพราะปัญหามันเกิดจากสิ่งนี้

จิตที่ตั้งไว้ผิด

มันเนื่องมาจากการปรุงแต่งที่ปราศจากสติสัมปชัญญะ เมื่อตามากระทบ เมื่อรูปมากระทบตา เสียงมากระทบหู กลิ่นมากระทบจมูกเป็นต้นนี้…ในขณะนั้นมันไม่มีสติสัมปชัญญะเกิดขึ้น ก็เกิดการปรุงแต่งทางจิตไปตามลำดับ ลำดับ ลำดับ จนมีผลเป็นความเข้าใจผิด ความรู้ที่ผิดที่เรียกกันว่ากิเลสนั้นน่ะ นี่คือจิตที่ตั้งไว้ผิด เต็มอยู่ด้วยกิเลส มันเป็นความโลภ ความโกรธ ความหลง

จิตที่ตั้งไว้ถูก

ก็หมายความว่ามีสติสัมปชัญญะ เมื่อมีสติสัมปชัญญะนี้แล้ว การปรุงแต่งไปตามลำดับของจิตก็เป็นไปในทางที่ไม่ผิด คือรู้ว่าอะไรเป็นอะไรและควรจะจัดการกับมันอย่างไร ไม่ต้องมีความโลภ ความโกรธ ความหลงเกิดขึ้น แล้วทำสิ่งต่าง ๆ ไปในลักษณะที่เรียกว่า ที่ถูกที่ควร ที่เป็นธรรม ประกอบไปด้วยธรรม ไม่มีความทุกข์

ทีนี้ขอให้มอง ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของมนุษย์เราคือจิตที่ตั้งไว้ผิด

เดี๋ยวนี้โลกทั้งโลกกำลังรับบาปหรือรับผลของการที่ตั้งจิตไว้ผิดเดือดร้อนวุ่นวายระส่ำระสายไปทุกหัวระแหง ทั้งที่มันเป็นสงครามและไม่เป็นสงคราม

หมายความว่า แม้ไม่มีสงครามไอ้คนมันก็เดือดร้อนเพราะกิเลสของตัวเอง เผาผลาญตัวเองให้เร่าร้อนเป็นนรก หิวกระหายเป็นเปรต อยู่ด้วยความรู้สึกที่หวาดกลัวระแวง เป็นอสูรกาย นี่เรียกว่าโง่เหมือนสัตว์เดรัจฉาน ไม่ดีกว่าสัตว์เดรัจฉาน

นี่เรียกว่าไม่มีสงครามมันก็มีศัตรูร้ายกาจนี่ย่ำยีอยู่อย่างนี้ ทีนี้ถ้ามันเผลอไปทำไม่ดีไม่ถูกไม่ควรในทางสังคมมันเกิดสงครามขึ้นทั่วไปหมด มันก็มีผลเดือดร้อนเพิ่มขึ้นอย่างอื่นอีกมาก ล้วนแต่มาจากจิตตั้งไว้ผิดทั้งนั้น

ถ้าจิตตั้งไว้ถูกแล้วสิ่งเหล่านี้เกิดไม่ได้ สงครามเกิดขึ้นในโลกไม่ได้ มันเกิดมาจากการที่จิตตั้งไว้ผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย คนละอย่าง คนละทาง

ที่มา ท่าน พุทธทาสภิกขุ โอวาทลาสิกขาบท แก่พระนวกะวัดชลประทาน ปี 2513 ครั้งที่ 4 เรื่องทุกอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งสิ่งเดียว คือจิต

ความคิดเห็น