25 เมษายน 2024
เมื่อเป็นหนี้

การรับมือทางจิตใจ เมื่อเป็นหนี้

เมื่อเป็นหนี้ เชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความเครียด และกังวลไม่น้อย แต่ทุกคนล้วนมีภาระ และหน้าที่ที่แตกต่างกันไป หลายคนอาจจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อใช้จ่าย หรือเพื่อครอบครัว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรแต่เมื่อต้องใช้คืนแต่ลูกหนี้กลับมีเงินไม่พอ หรือยังไม่พร้อม ด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่ ย่อมทำให้ลูกหนี้เองเกิดความเครียด ลองดูวิธีการรับมือทางจิตใจ เมื่อเป็นหนี้ อาจจะช่วยลดความเครียดของคุณไปได้บ้าง

# หาเหตุผลที่แท้จริง

ลองตอบตัวเองให้ได้ว่าหนี้ ที่มีนั้นเกิดมาจากอะไรกันแน่ เป็นเพราะความจำเป็นจริงๆหรือเพราะความฟุ่มเฟือยกันแน่ ถ้ามาจากความจำเป็นก็อย่าเสียใจ จำไว้ว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้วและพร้อมจะรับผิดชอบผลของมันอย่าง กล้าหาญแต่ถ้ามาจากความฟุ่มเฟือย รูดบัตรเพลินเกินตัวล่ะก็รีบดัดนิสัยตัวเองโดยด่วน ก่อนจะเกิดหนี้ก้อนใหม่ตามมาติดๆ

# ยังไม่ได้ล้มเหลว

หลายคนรู้สึกท้อแท้ที่จะรับมือกับหนี้สิน เพราะมองว่าหนี้เกิดจาก ความไม่เอาไหนของตัวเองซึ่งไม่จริงเสมอไป ทุกคนต่างมีความจำเป็น ของตัวเอง ในโลกนี้มีคนมากมายที่ต้องพบกับปัญหาแบบนี้แช่นเดียวกับคุณและ หลายคนก็สามารถผ่านพ้นมาได้สำเร็จอย่ามัวโทษตัวเองอยู่เลย รีบลุกขึ้นสู้ไปด้วยกันเถอะ

# ยอมรับความจริง

ทุกปัญหาจะแก้ได้ต้องเริ่มต้น จากการยอมรับให้ได้ก่อนว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นแล้ว หนี้สินก็เช่นกันเมื่อมีภาระหนี้สินผูกพันซะแล้ว การแสร้งทำเป็นลืมๆ ไปไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยเพราะถึงแม้จะทำให้สบายใจได้ในวันนี้ แต่ไม่ว่าจะพรุ่งนี้หรือวันไหนๆ หนี้ก็ยังอยู่ ถ้ายังไม่รู้จักแก้ไขให้ถูกต้อง หันกลับมาเผชิญหน้าความจริงตั้งแต่วันนี้ดีกว่าปล่อยไว้จนสายเกินแก้

# คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

ไม่ว่าปัญหาจะยิ่งใหญ่แค่ไหน มันก็จะเบาลง ได้ถ้ามีคนช่วยแชร์ อย่าเอาแต่แบกรับความกลุ้มใจไว้เพียงคนเดียวลองหันไปปรึกษา คนในครอบครัวหรือเพื่อนที่ไว้ใจได้พวกเขาต้องพร้อมเป็นกำลังใจให้คุณแน่นอน

# ผ่านมาเดี๋ยวก็ผ่านไป

คนเราเกิดมาทุกๆคน ย่อมต้องเจออุปสรรคมากมายเป็นธรรมดา ซึ่งถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าหนี้สินที่มีตอนนี้ ก็เป็นแค่ปัญหาจุดเล็กๆ จุดหนึ่งในชีวิตคุณเท่านั้นคุณยังโชคดีกว่าอีกหลายคนบนโลกนี้เยอะ ฉะนั้นจะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่ได้

# แก้ปัญหา

มองโลกในแง่ดีแล้ว อย่าลืมวางแผน การเงินอย่างชาญฉลาด และลงมือจัดการกับหนี้สินอย่างจริงจัง เช่น ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หารายได้เสริมและเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหาข้อตกลงที่ลงตัวกับทั้งสองฝ่าย เพียงเท่านี้ คำว่า “ปลอดหนี้” ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ยิ้มเข้าใว้

ความคิดเห็น