19 เมษายน 2024
คุณแม่บุญเรือน

คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ผู้ปฏิบัติธรรมที่ได้รับการยอมรับว่า ท่านมีจิตอันบริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยเมตตาจนสำเร็จถึงขั้น จตุตถฌาน หรือ ฌาน4 ก็คือ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ซึ่งนอกเหนือจากการสำเร็จในฌาน ทั้ง 4 แล้ว คุณแม่บุญเรือน ท่านยังได้เพียรพยายามฝึกจิต และสมาธิอย่างแรงกล้า ทั้งได้ประกอบการบุญอันเป็นอานิสงส์แห่งชีวิตอย่างสูงส่ง จนท่านสำเร็จในอภิญญา 6

วัตถุมงคลของ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

“พระพุทโธน้อย” คุณแม่บุญเรือน

การสร้างวัตถุมงคลของอุบาสิกานั้น คนวงการพระเครื่องบางคนอาจจะรู้จักบ้าง ส่วนคนนอกวงการพระเครื่องอาจจะเกิดคำถามว่า “มีด้วยหรือพระเครื่องและวัตถุมงคลที่สร้างโดยอุบาสิกา ที่เปี่ยมด้วยพุทธคุณและมากด้วยค่านิยม”

“มี! และที่สำคัญ คือ เป็นพระเครื่องและวัตถุมงคลที่เปี่ยมด้วยพุทธคุณและมากด้วยค่านิยม”

คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นอุบาสิกาเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่อธิษฐานจิตในการจัดสร้างวัตถุมงคลแล้วได้รับความนิยม ทั้งนี้คุณแม่บุญเรือน ได้อธิษฐานจิตมอบให้ลูกศิษย์ คือ ปฐวีธาตุหรือศิลาน้ำ (หินหรือกรวดใต้น้ำ) เพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณครอบจักรวาล มีอานุภาพกันภัย รักษาโรคภัย ตลอดจนคุ้มครองรักษาผู้มีติดตัวไป

ลูกศิษย์มักนิยมนำมาใส่ในภาชนะที่ตั้งน้ำอธิษฐานประจำวันเสาร์ รวมทั้งเมื่อต้น พ.ศ.๒๔๙๘ ท่านได้อธิษฐานถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ แก่ลูกๆ และสานุศิษย์อีกด้วย

ส่วนพระเครื่องของคุณแม่บุญเรือน ที่ได้รับความนิยมนั้น คือ “พระพุทโธน้อย” เป็นพระเครื่องขนาดเล็กที่ท่านสร้างขึ้นและอธิษฐานจิตให้ไว้แก่วัดอาวุธวิกสิตาราม เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖ เป็นพระพิมพ์แบบครึ่งซีก กรอบทรงสามเหลี่ยม ด้านหน้า องค์พระประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย เหนือฐานบัวสองชั้น พระเกศเป็นมุ่นเมาลี พระนาสิกเป็นสันนูน พระเนตรเป็นเม็ดกลมนูน และพระหัตถ์ซ้ายถือหม้อน้ำมนต์ ส่วนด้านหลังมีอักขระขอมจารึกเป็นเส้นลึกอ่านว่า “พุทโธ”

พุทธโธน้อย

นอกจากนี้แล้วภาพถ่ายเก่าๆ ของคุณแม่บุญเรือน รวมทั้งหนังสืออนุสรณ์ในงานบำเพ็ญกุศลฌาปนกิจศพคุณแม่บุญเรือน ก็เป็นที่แสวงหาเช่น สำหรับผู้ที่ไม่สามารถแสวงหาภาพเก่าของคุณแม่บุญเรือน มาบูชาหรือติดไว้ที่บ้านได้นั้น มีความเชื่อในหมู่ลูกศิษย์รวมทั้งตนก็เชื่อด้วยว่า

ภาพถ่ายอธิษฐานของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ถ่าย ณ วัดท่าผา จ.กาญจนบุรี ที่คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานไว้ว่า ไม่ว่ารูปนี้จะอัดขยายต่อไปอีกกี่พันกี่หมื่นกี่แสนครั้ง ทุกๆ ภาพก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอกับรูปต้นแบบที่ถ่ายไว้ทุกประการ ด้วยเหตุนี้จึงนำรูปของท่านไปอัดขยายติดไว้ที่ร้าน

คุณแม่บุญเรือน

สำหรับค่านิยมของพระเครื่องที่อธิษฐานจิตโดยคุณแม่บุญเรือนนั้น บอย ท่าพระจันทร์ บอกว่า พระพุทโธน้อย พิมพ์จัมโบ้ เนื้อขาว สร้างปี ๒๔๙๔ สภาพสวยสมบูรณ์ค่านิยมประมาณ ๒-๓ แสนบาท พระพุทโธน้อย พิมพ์ใหญ่ (อะมีแป้น) ค่านิยมประมาณ ๔-๕ หมื่นบาท ส่วนพระพุทโธน้อยพิมพ์ใหญ่ค่านิยมประมาณ ๒-๓ หมื่นบาท รวมถึงพิมพ์พระสมเด็จหลังยันต์และหลังเรียบ และพระสมเด็จพิมพ์ประจำวัน สนนราคาเล่นหาสูงมากเช่นกัน

เมื่อถามถึงการเปิดกรุพระเก่าใต้ฐานชุกชี พระพุทธชินราชจำลอง พระประธานในพระอุโบสถอย่างเป็นทางการ ของพระเทพปัญญามุนี เจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตารามเมื่อครั้งที่ผ่านนั้น บอย ท่าพระจันทร์ บอกว่า แม้ว่าจะไม่ได้ไปร่วมเปิดกรุแต่การสร้างพระบรรจุกรุดไว้นั้นมีการบันทึกไว้อย่างชัดเจน โดยเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๙ ได้มีการสร้างพระประธาน

หลังจากนั้นได้นำพระพุทโธน้อย และพระพิมพ์สมเด็จมงคลมหาลาภเนื้อผงผสมว่าน และมวลสารอันเป็นมงคลต่างๆ ที่สร้างไว้เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ ในยุคของพระสิทธิสารโสภณ หรือ พระอาจารย์สงวน โฆสโก อดีตเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม และ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม มาบรรจุไว้จำนวนมาก

ผู้เปี่ยมด้วยธรรม

“คุณแม่บุญเรือน” เป็นสรรพนามที่ลูกศิษย์ใช้เรียกชื่อ “คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม” เนื่องจากท่านมีหลายสถานะ ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๓๗ ท่านได้กำเนิดในครอบครัว ที่มีฐานะค่อนข้างยากจน มีนายยิ้ม กลิ่นผกา เป็นบิดา และมีนางสวน กลิ่นผกา เป็นมารดา สถานที่เกิดอยู่ที่คลองสามวา อ.มีนบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อมีอายุพอสมควรก็ได้สมรสกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม โดยได้ประกอบอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นการช่วยสามีอีกแรงหนึ่ง และรับรักษาโรคโดยเป็นหมอนวด ซึ่งการเป็นหมอนวดเพื่อรักษาโรคนั้น ท่านทำเป็นการกุศลไม่มีสินจ้าง ขณะเดียวกันท่านยังมีความสามารถในการทำคลอด หรือเป็นหมอตำแยแผนโบราณด้วย ซึ่งทำให้ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากในขณะนั้น

ด้วยความเลื่อมใสในพุทธศาสนา ขณะที่ยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ ส.ต.ท.จ้อย ได้ไปฟังพระสวดมนต์ ฟังธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์อยู่บ่อยๆ ทั้งได้ฝึกหัดทำวิปัสสนากัมมัฏฐานที่วัดนี้ด้วย ทำให้คุณแม่บุญเรือนมีความใกล้ชิดและผูกพันในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก คุณแม่บุญเรือนก็ได้ลาสามีบวชเป็นชีและอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์ ได้พากเพียรพยายามฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน ได้อยู่ปฏิบัติที่ศาลาวัดสัมพันธวงศ์ จนทำให้เกิดความเข้าใจ และปลอดโปร่งในธรรมะ รักความสงบประกอบการกุศลต่าง ๆ ช่วยปักหมอนสำหรับธรรมาสน์พระสวดปาฏิโมกข์เป็นต้น

อย่างไรก็ตามนับตั้งคุณแม่บุญเรือน ได้วายชนม์ทิ้งร่างไปเมื่อวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๗ เวลา ๑๑.๒๐ น. สิริอายุรวม ๗๐ ปี ซึ่งนับได้ประมาณกว่า ๔๐ ปีมาแล้ว ทุกวันนี้ยังมีผู้คนไปสักการบูชากราบไหว้ขอพรจากรูปปั้นของท่าน อยู่เสมอมิได้ขาด โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ เวลาหลังเที่ยง จะมีสานุศิษย์และผู้ศรัทธาของคุณแม่ต่างพร้อมใจไปชุมนุมกัน เพื่อสวดมนต์ต่อหน้ารูปหล่อของท่านที่ศาลาดังกล่าว โดยปฏิบัติติดต่อกันทุกวันอาทิตย์

หลังจากการสวดมนต์นั่งสมาธิแล้ว สานุศิษย์และผู้ศรัทธาจะขอรับเอาสิ่งของต่างๆ ที่นำมาสักการบูชา เช่น ผลไม้ น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย สาคู และปูนสีแดง ที่ใช้ทาใบพลูสำหรับรับประทาน โดยอธิษฐานขอให้สิ่งของต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นยาแก้โรคต่างๆ ซึ่งก็แปลกที่หลายคนหายขาดโรคภัยที่เป็นอยู่อย่างน่ามหัศจรรย์ นอกจากนี้บางคนยังเอาไพลทุกชนิดไปถวายต่อหน้ารูปปั้นของคุณแม่บุญเรือน แล้วจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาท่าน อธิษฐานจิตขอให้ท่านดลบันดาลให้ไพลเป็นยารักษาโรค แล้วนำไพลนั้นมาทารักษาโรค ก็หายได้เช่นกัน

“คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานไว้ว่า ไม่ว่ารูปนี้จะอัดขยายต่อไปอีกกี่พันกี่หมื่นกี่แสนครั้ง ทุกๆ ภาพก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอกับรูปต้นแบบที่ถ่ายไว้ทุกประการ”

ขอบคุณ Amulet24

ความคิดเห็น